ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมการผลิตก็ต้องปรับตัวตาม การตัดโลหะจึงเป็นกระบวนการสำคัญในหลายอุตสาหกรรม ที่กำลังเผชิญกับทางเลือกใหม่ๆ

บทความนี้จะพาทุกท่านไป "ไขความลับ" เทคโนโลยี "เลเซอร์" เปรียบเทียบกับวิธีการตัดโลหะแบบดั้งเดิมอย่าง "พลาสม่า" และ "แก๊ซ" เพื่อค้นหาว่าเลเซอร์นั้น "เหนือกว่า" อย่างไร และทำไมถึงเป็น "ตัวเลือกที่ดีที่สุด" สำหรับงานตัดโลหะในปัจจุบัน 

ตารางเปรียบเทียบ การตัดโลหะด้วย 3 เทคโนโลยี 

หัวข้อ	พลาสม่า	แก๊ซ	เลเซอร์
ความเร็ว	ปานกลาง	ช้า	เร็ว
ความแม่นยำ	ปานกลาง	ต่ำ	สูง
ความเรียบเนียนของรอยตัด	ปานกลาง	ต่ำ	สูง
ความร้อนที่ใช้	สูง	สูง	ต่ำ
การบิดงอของชิ้นงาน	สูง	สูง	ต่ำ
การเกิดมลพิษ	สูง	สูง	ต่ำ
การดูแลรักษา	ปานกลาง	ปานกลาง	ต่ำ
ทักษะของผู้ใช้เครื่อง	ปานกลาง	ต่ำ	ต่ำ
ค่าใช้จ่าย (การซ่อมบำรุง)	สูง	สูง	ต่ำ

ข้อดีของการตัดโลหะด้วยเลเซอร์: 

ความเร็ว: ตัดโลหะได้เร็วกว่าวิธีอื่น เหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็ว

ความแม่นยำ: ตัดได้แม่นยำ รอยตัดเรียบเนียน เหมาะกับงานที่มีความละเอียดสูง

ความร้อนต่ำ: ชิ้นงานไม่ร้อนจนบิดงอ เหมาะกับโลหะที่ไวต่อความร้อน

การบิดงอต่ำ: ชิ้นงานเรียบ ไม่บิดงอ เหมาะกับงานที่ต้องการความเรียบ

ใช้งานได้หลากหลาย: ตัดโลหะได้ทุกชนิด เหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ฝุ่นละอองน้อย มลพิษน้อย

ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงต่ำ: เลเซอร์มีอายุการใช้งานยาวนาน ชิ้นส่วนสึกหรอน้อย

 

เลเซอร์: ทางเลือกใหม่สำหรับงานตัดโลหะ

 จากตารางเปรียบเทียบ จะเห็นได้ว่าเลเซอร์มีข้อดีเหนือกว่าวิธีการตัดโลหะแบบดั้งเดิมในหลาย ๆ ด้าน เลเซอร์จึงเป็น "ตัวเลือกที่ดีที่สุด" สำหรับงานตัดโลหะในปัจจุบัน เหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็ว แม่นยำ ชิ้นงานเรียบ และต้องการความยืดหยุ่น

 ตัวอย่างการใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์

 อุตสาหกรรมยานยนต์

ใช้สำหรับผลิตชิ้นส่วนต่างๆ อาทิ ตัดชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และท่อไอเสีย ซึ่งมีต้องมีความพิถีพิถันเป็นอย่างสูง การตัดด้วยเลเซอร์จึงเป็นวิธีที่ดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ 

เครื่องตัดด้วยเลเซอร์ มีความยืดหยุ่น และสามารถสร้างรูปทรง รวมถึงการออกแบบที่ซับซ้อน จึงกลายเป็น เทคโนโลยียอดนิยมในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

เครื่องตัดเลเซอร์ช่วยให้ได้ชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถตัดชิ้นส่วนที่สลับซับซ้อนได้ อีกทั้งใช้ความร้อนต่ำจึงลดความเสี่ยงต่อความเสียหายจากความร้อนต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยังเหมาะกับวัสดุขนาดเล็กอีกด้วย 

จึงเหมาะกับการตัดชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

อุตสาหกรรมเครื่องจักร

เครื่องตัดเลเซอร์ เหมาะจะใช้ตัดชิ้นส่วนเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ จึงพบเห็นได้ทั่วไปในสายการประกอบของโรงงานผลิต ซึ่งรวมถึงเวิร์กช็อปงานโลหะ โรงงานทอผ้า ชิ้นส่วนพลาสติก และอื่นๆ 

อุตสาหกรรมการก่อสร้าง

การตัดด้วยเลเซอร์มักใช้ในอุตสาหกรรมงานโลหะเพื่อตัดโลหะให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ ใช้สำหรับตัดแผ่นเหล็ก แผ่นอลูมิเนียม และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ได้แก่ คาน ท่อ และโลหะแผ่นเหล็ก 

อุตสาหกรรมการบิน และอวกาศ

เครื่องตัดเลเซอร์กลายเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานด้านการบิน และอวกาศ สามารถใช้สร้างชิ้นส่วนโครงเครื่องบิน ใบพัดกังหัน และส่วนประกอบขนาดเล็กอื่นๆ

 อุตสาหกรรมการทหาร

ชิ้นส่วนตัดด้วยเลเซอร์มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการทหารทั้งหมด ไม่ว่าจะการปฏิบัติการบนบก ทางอากาศ หรือในทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการใช้เครื่องตัดเลเซอร์บ่อยครั้งในการประดิษฐ์ยานพาหนะทางทหาร

นอกจากนี้ ยังรวมถึงมีด ไฟฉาย อาวุธปืน ยานพาหนะทางทหาร ชิ้นส่วนเฮลิคอปเตอร์ และอุปกรณ์ทางยุทธวิธีอื่น ๆ

บทสรุป: 

เทคโนโลยีเลเซอร์ นวัตกรรมใหม่สำหรับงานตัดโลหะ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ รวดเร็ว แม่นยำ ชิ้นงานเรียบ ใช้งานได้หลากหลาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เลเซอร์คือ "อนาคตของงานตัดโลหะ" 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 

บริษัท ไจแมค กรุ๊ป จำกัด

ที่อยู่ : 21/3 หมู่ 1 ถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา ตำบลคลองประเวศ อำเภอบ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา 24140
โทรศัพท์ : 06-5510-9898
อีเมล : info@jaimac.co.th
Line ID : @jaimac
เว็บไซต์ : https://jaimac.yellowpages.co.th
วัน และเวลาทำการ : วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 8.00น.-17.00น.