Submitted by monnapa@telein… on Wed, 10/21/2020 - 13:20
Image
ใส่เข็มขัดให้ท่อ! เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
Body

“ระบบท่อ” เป็นระบบที่ทุกโรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องมีเพื่อใช้ในการขนส่งลำเลียงของไหลเข้าออก สำหรับใช้งานในกระบวการผลิตสินค้า ระบบสาธรณูปโภคต่างๆ ของเหลวหรืออากาศ มีการใช้งาน จะเกิดแรงดันภายในท่อขณะลำเลียงน้ำ ซึ่งการใส่ “เข็มขัดรัดท่อ” จะทำให้อุปกรณ์ที่ใช้งานมีการยึดและปิดผนึกท่อให้เข้ากับข้อต่อได้ดี ช่วยเพิ่มความแน่นหนาขณะที่ท่อทำงาน

1เข็มขัดรัดท่อ

เข็มขัดรัดท่อ คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เข็มขัดรัดท่อ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและปิดผนึกท่อให้เข้ากับข้อต่อ จะช่วยทำให้ท่อยึดกับข้อต่อได้อย่างแข็งแรง ในภาคครัวเรือนจะสามารถพบเห็นการใช้เข็มขัดรัดท่อที่เชื่อมต่อกับท่อเหล็ก ท่อพลาสติก หรือสายยางเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะช่วยไม่ให้ตัวท่อหรือสายยางหลุดขณะที่มีแรงดันน้ำ และยังสามารถประยุกต์การใช้งานได้หลากหลายในภาคอุตสาหกรรม เช่น  อุตสาหกรรมต่อเรือ อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องยนต์เทอร์โบ เป็นต้น

2ท่อเหล็ก

ประเภทของท่อเหล็ก

ท่อเหล็กสามารถแบ่งได้หลายประเภท หากแบ่งตามส่วนประกอบของเหล็ก สามารถจำแนกได้ 3 ชนิด คือ 1.ท่อเหล็ก 2.ท่อเหล็กกล้าชุบสังกะสี 3.ท่อเหล็กหล่อ ซึ่งทั้งสามประเภทนี้ก็สามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 แบบ ท่อแบบมีตะเข็บและท่อแบบไม่มีตะเข็บ อีกการจำแนก คือ แบ่งตามบ่ารับได้ 2 แบบ คือ ท่อเหล็กแบบมีบ่ารับและท่อเหล็กแบบไม่มีบ่ารับ

3สายยาง

ประเภทของสายยาง

สายยาง คือ สายลำเลียงน้ำหรือของเหลวที่ใช้สำหรับงานต่าง ๆ ภายในบ้าน หรือ อุตสาหกรรม เช่น ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ ซึ่งสายยางมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ
1. สายยางใส หรือสายยางฟ้า เป็นสินค้าที่จำเป็นจะต้องมีติดบ้านไว้ทุกๆบ้าน โดยเฉพาะในระบบงานโรงงานหรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้น้ำในปริมาณมากกว่าปกติ รวมไปถึงแรงดัน หรือ อุณหภูมิที่มากหรือน้อยกว่าปกติ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ “เข็มขัดรัดท่อ”     ช่วยในการต่อสายยางเข้ากับข้อต่อจะทำให้อุปกรณ์ที่ใช้งานมีการยึดและปิดผนึกท่อให้เข้ากับข้อต่อได้แน่นยิ่งขึ้น
2. สายยางรับแรงดัน โดยทั่วไปสายยางทนแรงดันสูงจะผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกันแต่จะมีการเสริมเส้นใยถักด้านใน เพื่อให้สามารถทนต่อแรงดันน้ำที่มากขึ้น สายยางชนิดนี้จะเพิ่มชั้นของเส้นใยตามแรงดันของน้ำที่มากๆขึ้น การใช้ “เข็มขัดรัดท่อแรงดันสูง” (Heavy Duty Hose Clamp) ช่วยในการต่อสายยางเข้ากับข้อต่อจะทำให้อุปกรณ์ที่ใช้งานมีการยึดและปิดผนึกท่อให้เข้ากับข้อต่อได้แน่นยิ่งขึ้นภายใต้แรงดันที่มีการเปลี่ยนแปลงขณะใช้งาน
3. สายยางกลุ่มพิเศษต่างๆ เช่น สายยาง Food grade สายยางทนเคมีพิเศษกันไฟฟ้าสถิต สายดูดอาหาร สายน้ำมัน สายส่งน้ำผ้าใบ ท่อส่งน้ำ ฯลฯ โดนสายยางแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติต่างๆกันไป ที่ทนแรงดันสำหรับน้ำร้อน และ สายยางทนแรงดันสำหรับน้ำเย็น โดยทั่วไปสายยางประเภทนี้ จะถูกใช้งานในอุตสาหกรรมอาหาร และยา หรืออุตสาหกรรมที่ต้องมีการแยกประเภทของน้ำในการใช้งาน เช่นการทำความสะอาดอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ การทำความสะอาดห้องครัว (ภัตตาคาร,โรงแรม หรือ โรงงานผลิตอาหาร) ที่ต้องใช้น้ำร้อนอุณหภูมิสูงในการทำความสะอาด เพราะตัวสายยางประเภทนี้มีความยืดหยุ่นมากกว่า และสามารถทนความร้อนได้สูง อุณหภูมิสูงในการทำความสะอาด เพราะตัวสายยางประเภทนี้มีความยืดหยุ่นมากกว่า และสามารถทนความร้อนได้สูง 

โดยส่วนใหญ่สายยางประเภทนี้จะถูกผลิตแยกสีออกมาเป็นสีฟ้าสำหรับน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิปกติ และ สีแดงสำหรับน้ำร้อน ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 60ถึง70 องศาเซลเซียส และสีดำสำหรับน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 100องศาเซลเซียส สินค้าอย่างดีส่วนใหญ่นั้น มาพร้อมกับโรลไม้ม้วนสายในตัว เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยสายยางประเภทนี้ส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งไว้อยู่เฉพาะจุดที่มีการเปลี่ยนการใช้น้ำร้อนหรือเย็นบ่อยๆ ตัวอย่างเช่น ครัวตามโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือ สถานที่ที่ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่ต้องการใช้น้ำร้อนในการทำงาน ส่วนของสายน้ำร้อน นอกจากจะมีความแตกต่างแค่สีของสาย ยังมีความพิเศษภายในเพราะนอกจากเส้นใยถักที่เป็นวัสดุเพิ่มความคงทนของสาย แล้วยังถูกหุ้มด้วยฉนวนกันความร้อนเพิ่มเข้าไปเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการใช้งานและการสัมผัสสายยางอีก

4ท่อพลาสติก

ประเภทของท่อพลาสติก

ท่อพลาสติกที่นิยมใช้งานกันในท้องตลาดมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่
1. ท่อ PVC  เป็นท่อพลาสติกที่มีมีความเหนียวยืดหยุ่นตัวได้ ทนต่อแรงดันน้ำได้ดี ทนต่อการกัดกร่อนของกรดหรือด่างได้ดี ใช้เป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี แต่จะไม่ทนทานต่อแรงกระแทกและแสงแดดหรือแสงยูวี โดยท่อ PVC ที่นิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้างยังแบ่งออกได้อีก 3 ชนิด คือ ท่อสีฟ้า ท่อสีเหลือง และท่อสีเทา

2. ท่อ PPR เป็นท่อที่เกิดจากการ Random Copolymer Polypropylene ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง  ท่อและข้อต่อสามารถเชื่อมผสานกันเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เป็นสนิม สะอาด สามารถใช้เป็นท่อน้ำดื่มได้ เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งใน บ้านพักอาศัย คอนโด ตึกแถว อาคารขนาดเล็กและใหญ่

3. ท่อโพลีเอทิลีน หรือท่อ PE เป็นท่อพลาสติกอีกหนึ่งชนิด มีทั้งที่นำไปใช้เป็นท่อน้ำ และท่อร้อยสายไฟ มีความยืดหยุ่นสูง แต่ไม่สามารถนำมาใช้งานระบบน้ำร้อนได้ แบ่งออกได้อีก 2 ชนิด คือ แบบความหนาแน่นต่ำ(LDPE) และแบบความหนาแน่นสูง (HDPE)

5สแตนเลส

เกรดสแตนเลส คุณสมบัติและการใช้งาน

ในท้องตลาดสแตนเลสที่มีการใช้งานอยู่มากมี 4 เกรด ได้แก่

- เกรด 304 (SUS 304) เป็นเกรดที่นิยมใช้กันมากที่สุดในทางอุตสาหกรรม และสามารถใช้กับการปั้มขึ้นรูปสูง ๆ ได้ เช่น นำมาทำอุปกรณ์เสริมปลอดภัย คือ บานพับ ลูกบิดประตู เป็นต้น

- เกรด 316 (SUS 316) เป็นสแตนเลสที่คล้ายกับเกรด 304 แต่จะมีส่วนผสมของ สารโมลิดินัม เพิ่มเข้าไปทำให้สแตนเลสเกรดนี้ สามารถทนต่อการเกิดสนิม และการกัดกร่อนได้ดีกว่าเกรด 304 เหมาะกับนำไปทำอุปกรณ์ทางเรือ หรือเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น

- เกรด 430 (SUS 430) เป็นสแตนเลสที่มีความแข็งแกร่งสูงกว่าสแตนเลสเกรด 304 และ 316 เหมาะสำหรับงานที่รับแรงสูงกว่า เพราะปรกติสแตนเลสมักจะมีความเหนียวมากกว่าความแข็ง ซึ่งเหมาะสำหรับทำอุปกรณ์ชุดครัวในเรื่องการตัดหั่นต่าง ๆ เช่น ทำมีดต่าง ๆ หรือที่วางเตาแก๊ส เป็นต้น

- เกรด 202 (SUS202) เป็นสแตนเลสอีกเกรดซึ่งจะประกอบด้วย โครเมี่ยม นิเกิล และแมงกานีส ซึ่งแม่เหล็กดูดไม่ติด แต่ความทนทานต่อสนิมจะต่ำกว่าเกรด SUS 304 มักนิยมใช้ในงานผลิตสินค้า ฮาร์ดแวร์ ต่าง ๆ เช่น บานพับ และกลอนประตูเกรดล่าง เป็นต้น

6เข็มขัดรัดท่อ

เข็มขัดรัดท่อกับเกรดสแตนเลส

เข็มขัดรัดท่อกับเกรดสแตนเลส จำเป็นต้องเลือกใช้งานเกรดสแตนเลสที่ตามความเหมาะสมของประเภทการใช้งานและความต้องการต่อการทนสนิม โดยเกรด 304 เหมาะใช้งานในอุตสาหกรรมแบบทั่วไปหลากหลายประเภท เกรด 316 เหมาะใช้งานในอุตสาหกรรมต่อเรือหรืออาหาร และเรือประมง เนื่องจากทนต่อการกัดกร่อนได้สูงมาก และเกรด430 เหมาะสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์ งานอะไหล่ เครื่องจักรทั่วไป เครื่องยนต์เทอร์โบ เป็นต้น

7AISI

มาตรฐานทั่วไปของท่อ

1. มาตรฐานวัสดุ ระบบอเมริกา นิยมใช้กัน 2 มาตรฐาน คือ ระบบ AISI (America Iron and Steel Institute) และ ระบบ SAE (Society of Automotive)
2. มาตรฐานท่อ เช่น ANSI, ASTM, API, ISO, DINและ JIS เป็นต้น
3. ข้อกำหนดและมาตรฐานตามการใช้งาน เช่น ASME B31, NFPA, และ AGA เป็นต้น

8ท่อ PVC

ตัวเลขและอักษรบนท่อ PVC บอกอะไร

1. ขนาดท่อ คือความยาวของเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ มีทั้งหน่วยมิลลิเมตรแล้วตามด้วยหน่วยนิ้ว เช่น 18 (1/2″) คือ ท่อขนาด 18 มิลลิเมตร หรือ 1/2 นิ้ว , 20 (3/4″) คือ ท่อขนาด 20 มิลลิเมตร หรือ 3/4 นิ้ว และ 25 (1″) คือ ท่อขนาด 25 มิลลิเมตร หรือ 1 นิ้ว ซึ่งที่กล่าวมาทั้ง 3 ขนาด มักใช้ตามบ้านพักอาศัยทั่วไป

2. ชั้นคุณภาพ หรือที่เรียกสั้นๆว่า คลาส บอกเป็นตัวเลข เช่น 5 , 8.5 และ 13.5 ใช้บอกคุณสมบัติความทนทานต่อแรงดันน้ำในเส้นท่อ ซึ่ง 5 หมายถึงรับแรงดันได้ 5 บาร์ , 8.5 คือ รับแรงดันได้ 8.5 บาร์ และ สุดท้าย 13.5 คือ รับแรงดันได้ถึง 13.5 บาร์

3. มอก. หรือมาตรฐานอุตสาหกรรม ท่อที่ดี มีคุณภาพ ต้องมี มอก. ระบุเอาไว้ด้วยเพื่อความมั่นใจ ซึ่ง มอก. 17-2532 เป็นมาตรฐานท่อพีวีซีแข็ง สำหรับใช้เป็นท่อน้ำดื่ม มีสีฟ้า ความยาวมาตรฐาน 4 เมตร และ มอก. 1131-2535 เป็นมาตรฐานข้อต่อพีวีซีแข็ง สำหรับใช้กับท่อรับแรงดัน มีสีฟ้า เช่นกัน

9HVAC System

HVAC System คืออะไร

HVAC คือ ระบบปรับสภาวะอากาศ ซึ่งจะจัดการอากาศ เพื่อควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ความสะอาด และการกระจายอากาศให้เป็นไปตามที่ต้องการสำหรับพื้นที่นั้นๆ ประกอบไปด้วย H-heating (การทำความร้อน), V-Ventilation (การระบายอากาศ) และ AC-Air conditioning (การปรับอากาศ)

โดยโครงสร้างของ HVAC ทั้งระบบระบายอากาศ ความร้อน และเครื่องปรับอากาศจะทำงานควบคู่กันตลอดเวลา เพื่อประสิทธิภาพในการจัดการอากาศหลักการกลศาสตร์ทางวิศวกรรม ระบบนี้จึงเหมาะสมกับสถานที่สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางในระบบปิด ที่มีลักษณะซับซ้อนหรือต้องการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเคร่งครัด เช่น  ห้องคลีนรูม เพื่อการผลิตเครื่องสำอาง อาหารเสริม และยา มีคุณภาพที่ดีและปลอดภัยต่อผู้บริโภค  โดยออกแบบภายใต้มาตรฐานสากล GMP/PICs  ดังนั้น การเลือกใช้ “เข็มขัดรัดท่อ” ที่เหมาะสมกับ ระบบ HVAC จึงจำเป็นต้องเลือก ชนิด วัสดุ หรือประเภทใช้งาน ที่เหมาะสมด้วย เช่น Pipe Support Hanger สแตนเลส 304, 316

คุณสมบัติของเข็มขัดรัดท่อที่ดี

เข็มขัดรัดท่อที่ดีต้องมีลักษณะโค้งกลมและตัวเรือนแข็งแรงสามารถรัดให้แน่นได้โดยรอบ เมื่อรัดแน่นเต็มที่แล้วจะต้องไม่ทำลายผิวท่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหรือมีคามเสียหายน้อยที่สุดในการทำงาน และต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานของเข็มขัดรัดท่อด้วย ซึ่งประกอบด้วยการทดสอบแรงบิด ความสามารถในการวัดแรงดัน และการทนต่อการกัดกร่อน

การทดสอบมาตรฐานของเข็มขัดรัดท่อ

ทดสอบแรงบิด (Torque Testing)

เป็นการทดสอบค่าแรงบิดเกี่ยวกับการไขตัวสกรูบนตัวเข็มขัดรัดท่อ โดยการใช้ประแจทอร์คไขสกรูของเข็มขัดรัดท่อตามค่าแนะนำ  โดยใส่แรงบิดหรือความแน่นในการขัน กับเครื่องอ่านค่าแรงบิดในการวัด ซึ่งประกอบด้วย “3ไข” คือ 
1. ไขลื่น (Free Torque Test) 
2. ไขทำลาย (Destructive Torque Test) 
3. ไขแน่น (Recommend Torque Test) 

ทดสอบการรับแรงดัน (Pressure Test)

เป็นการตรวจสอบลักษณะของเข็มขัดรัดท่อจากการผลิตจำนวนมาก เพื่อให้แน่ใจว่ารูปทรงของเข็มขัดรัดท่อเป็นทรงกลม สามารถแนบสนิทไปกับผิวท่อ นอกจากนี้ ให้มั่นใจว่าตัวเข็มขัดสามารถรัดท่อ ไม่คลายออก ถึงแม้จะมีแรงดันสูง

ทดสอบการทนต่อกัดกร่อน (Salt Spray Test)

การทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อนของโลหะในการเกิดสนิม ซึ่งวิธีการทดสอบจะใช้เครื่องทดสอบการกัดกร่อนไอเกลือ ( Salt spray test chamber ) บางครั้งอาจถูกเรียกว่า เครื่องทดสอบหมอกเกลือ ( Salt Fog test chamber ) หรือ เครื่องทดสอบละอองเกลือ ( Salt spray tester ) 

ขั้นตอนการทำงานของระบบบำบัดน้ำเสีย

โรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องมีการบำบัดน้ำเสียที่ใช้ภายในโรงงานให้มีค่าตามมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดก่อนที่จะปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะ โดยขั้นตอนของการบำบัดน้ำเสียมีอยู่ 3 ขั้นตอน คือ
1. การบำบัดขั้นต้น  เป็นการบำบัดเพื่อแยกของแข็งขนาดใหญ่ออกจากน้ำเสีย เพื่อป้องกันการอุตตันท่อน้ำเสีย ซึ่งแยกของแข็งด้วยการดักด้วยตะแกรงทั้งแบบหยาบและแบบละเอียด
2. การบำบัดขั้นที่สอง เป็นการบำบัดโดยใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลายพวกสารอินทรีย์อยู่ในรูปสารละลายหรืออนุภาคคอลลอยด์ ซึ่งการบำบัดน้ำเสียในขั้นนี้สามารถกำจัดของแข็งแขวนลอยและสารอินทรีย์ซึ่งวัดในรูปของ บีโอดีได้มากกว่าร้อยละ 80
3. การบำบัดขั้นสูง เป็นกระบวนการกำจัดฟอสฟอรัส ไนโตรเจน สี สารแขวนลอยที่ตกตะกอนยาก และอื่นๆ ซึ่งยังไม่ได้ถูกกำจัดโดยกระบวนการบำบัดขั้นที่สอง ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดียิ่งขึ้นเพียงพอที่จะนำกลับมาใช้ใหม่

การเลือกใช้ “เข็มขัดรัดท่อ” จึงควรเลือกใช้เข็มขัดที่มีมาตรฐานรับรอง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน หากผู้ประกอบการหรือโรงงานใดสนใจเข็มขัดรัดท่อและไพพ์แฮงเกอร์สามารถติดต่อได้ที่ บริษัท ออร์บิทฟาสเทนเนอร์ จำกัด บริษัทผู้ผลิตและส่งออกเข็มขัดรัดท่อที่ผ่านการรับรอง BS5315: 1991 โดยสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI) และได้รับการอนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ BSI Kitemark™ อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งผ่านการรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015
 


ติดต่อเรา
บริษัท ออร์บิทฟาสเทนเนอร์ จำกัด
ที่อยู่ : 59/9 หมู่ 8 ตำบลท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 74110
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2211-0402 , 08-1969-9556
Line ID : orbitdomestic 
Whatapp : +66-81-696-9556
อีเมล : contact@orbit-clips.com 
เว็บไซต์ : http://orbit-hoseclips.com/