5 ข้อผิดพลาดในการทำ SEO ที่ควรแก้ไข

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เพื่อให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกของ Search Engine นั้นถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน เพราะยิ่งลูกค้าเห็นเว็บไซต์ของเราง่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสขายสินค้าและบริการได้มากขึ้นเท่านั้น

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงทราบดีว่าการทำ SEO นั้นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเว็บไซต์ของเรา แต่การทำ SEO นั้นมีรายละเอียดบางอย่างที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เว็บของเราได้คะแนนดีขึ้นในการจัดอันดับของ Search Engine ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึง “ข้อผิดพลาดในการทำ SEO ที่ควรแก้ไข” โดยมีทั้งหมด 5 ข้อ ด้วยกัน

         

ทำ SEO โดยไม่มีเป้าหมายชัดเจน

          ในการทำ SEO นั้น คนส่วนมากอาจจะคิดว่าเพียงทำให้ยอดผู้เข้าชมเว็บสูงขึ้น และเมื่อยอดผู้เข้าชมสูงขึ้น ก็จะทำให้ยอดขายสินค้าในเว็บสูงขึ้นไปด้วย แต่ความเป็นจริงอาจจะไม่ง่ายเช่นนั้น เพราะ Traffic ที่เราได้มานั้น อาจจะไม่ใช่ชนิดของ Traffic ที่เราต้องการ เช่น เราอาจจะต้องการยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ Traffic ที่ได้ อาจจะเป็นกลุ่มเป้าหมายกลุ่มอื่น ที่เข้าเว็บมาเพื่อหาข้อมูลอย่างเดียวก็ได้ ดังนั้นแล้ว การกำหนดให้ชัดเจนว่า Traffic ที่เราต้องการ เป็นชนิดไหน ก็จะทำให้เราทำ SEO ไปในแนวทางที่สอดคล้องกับสิ่งที่เราต้องการได้

         

ไม่เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย

          หากเราไม่รู้จักและไม่เข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเรา อาจทำให้เราใส่ Content หรือ Keyword ที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการหรือพฤติกรรมองกลุ่มเป้าหมายเราได้

          กลุ่มเป้าหมายกลุ่มหนึ่งอาจจะต้องการหาข้อมูลเพื่อไปประกอบการตัดสินใจบางอย่าง คนกลุ่มนี้ก็จะมี Keyword ในการค้นหาอย่างหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มที่ต้องการซื้อสินค้า ก็จะมี Keyword ในการค้นหาอีกอย่างหนึ่ง

          ตัวอย่างเช่น นาย ก วิ่งออกกำลังกายและเกิดเจ็บข้อเท้า จึงลองค้นหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร นาย ก อาจจะค้นหาด้วยคำว่า เจ็บข้อเท้า, วิ่งแล้วเจ็บข้อเท้า, สาเหตุการเจ็บข้อเท้าหลังวิ่ง เป็นต้น ถ้าหากเรากำลังสร้างเว็บที่ให้ข้อมูลกับคนกลุ่มนี้ ก็จะต้องตั้ง Keyword ให้สอดคล้องกับคำที่คนกลุ่มนี้จะค้นหาใน Search Engine

          หากว่า นาย ก พบว่า สาเหตุของการเจ็บเท้าข้อนั้น เกิดจากรองเท้าที่ตัวเองใส่อยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคือ นาย ก อาจจะตัดสินใจซื้อรองเท้าใหม่เพื่อลดอาการเจ็บข้อเท้าของตนเองก็ได้ เราในฐานะผู้ขายรองเท้า อาจจะต้องตั้ง Keyword ที่เกี่ยวข้องกับรองเท้าที่ลดอาการเจ็บข้อเท้า เป็นต้น

 

มองข้าม Title Tags และ Meta Description

          แม้ว่าการสร้าง Content ที่มีคุณภาพจะเป็นหัวใจหลักของการทำ SEO แต่ AI ของ Search Engine นั้น ไม่อาจจะเข้าใจเนื้อหาของ Content ที่เป็นตัวอักษรทั้งหมดได้ อีกทั้งยังไม่สามารถมองเห็นหรือเข้าใจรูปภาพได้ ดังนั้นแล้ว จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะใส่ Title Tags ให้หน้าเว็บของเรา รวมถึงใส่ Meta Description ให้กับเนื้อหาที่ไม่ใช่ตัวหนังสือด้วย เช่น รูปภาพ และวิดีโอ เพื่อให้ Search Engine สามารถเข้าใจได้ว่ารูปภาพหรือวิดีโอที่อยู่ในหน้าเว็บนั้น เกี่ยวข้องกับอะไร

          ซึ่งในการใส่ Title Tags และ Meta Description นั้น ควรใส่ให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับเนื้อหาของหน้าเว็บและสอดคล้องกับ Keyword ที่ผู้เข้าชมเว็บจะใช้ค้นหาด้วย

 

เว็บใช้งานยากบน Smartphone

          นอกจากการสร้าง Content ของเว็บไซต์ที่มีคุณภาพแล้ว “คุณภาพของตัวเว็บไซต์” ก็มีส่วนสำคัญในการจัดลำดับในการค้นหาของ Search Engine เช่นกัน โดยเฉพาะประสิทธิภาพของเว็บไซต์นั้น ๆ ในการใช้งานบน Smartphone

          เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้ใช้งานมากกว่า 50% เข้าใช้งานเว็บไซต์บน Smartphone จึงทำให้ Search Engine ต่าง ๆ มีระบบที่ตรวจสอบคุณภาพของเว็บไซต์นั้นจากการใช้งานบนโทรศัพท์ด้วย จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องพัฒนาเว็บไซต์เพื่อให้เป็นเว็บที่มีความ User-Friendly กับผู้ใช้งานบนโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น และเพิ่ม Interaction ระหว่างเว็บกับผู้ใช้งาน

 

ไม่อัปเดตการทำ SEO

            Search Engine มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ในการจัดลำดับการค้นหาอยู่เสมอ ดังนั้นแล้วการทำ SEO แบบเดิม ๆ อาจจะไม่ทำให้เว็บของเราประสบความสำเร็จตามที่เราต้องการได้ แม้กระทั่งวิธีในบทความนี้ที่ถูกเขียนขึ้นในปี 2021 สุดท้ายก็จะกลายเป็นวิธีที่ล้าสมัยและใช้ไม่ได้ในอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วเจ้าของเว็บไซต์จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้วิธีการทำ SEO แบบใหม่ ๆ อยู่เสมอ และหมั่นอัปเดตเว็บไซต์ของตนเองเพื่อให้ข้อมูลมีความทันสมัยด้วย

 

 

Source

What are Buyer Keywords and How Do You Find Them? - Alexa Blog

The 10 Most Common SEO Mistakes to Avoid (searchenginejournal.com)

7 SEO mistakes to avoid in 2021 – Supermetrics

 

บทความแนะนำ

ถ้าหากแบ่งธุรกิจในปัจจุบันตามกลุ่มลูกค้าที่พบได้โดยทั่วไป ก็จะสามารถแบ่งได้สองแบบ นั้นคือธุรกิจ B2C หรือ Business to

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทางบริษัท Google ได้มีการอัปเดตในส่วนของการตรวจจับสแปมเพื่อให้ผู้ใช้แพลตฟอร์ม Google มั่นใจ

การทำธุรกิจออนไลน์มีหลายช่องทาง แต่จะให้ดูเป็นมืออาชีพที่สุด ต้องเป็นการทำเว็บไซต์ และแน่นอนว่าต้องมีปัญหาเรื่องผู้เข

สมุดหน้าเหลือง หรือ เยลโล่เพจเจส (YellowPages) เป็นคำที่หลายประเทศทั่วโลกใช้เรียกสมุดโทรศัพท์ประเภทไดเร็คทอรี่ส์ที่ถื

คำว่า “SEO” นั้น ย่อมาจาก “Search Engine Optimization” หมายถึงการปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้ขึ้นหน้าแรกในการค้นหาของ Se